Category: Healthcare Video

ท่าบริหารหัวใจให้แข็งแรงสำหรับผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ และหนึ่งในท่าบริหารที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ คือ ท่าบริหารหัวใจ ซึ่งช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดี บริหารกล้ามเนื้อต้นขา ก้น และหลัง และยืดกล้ามเนื้อหน้าอก ท่าบริหารหัวใจ 3 ท่าสำหรับผู้สูงอายุ 1. Squat: ยืนแยกขา กว้างกว่าสะโพกเล็กน้อย ปลายเท้าเฉียง 45 องศา ยืดหลังตรง เกร็งหน้าท้อง ค่อยๆย่อตัวลงให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้สักครู่ แล้วค่อยๆยืนขึ้น 2. ชาติ: ยืนตัวตรง มือเท้าสะเอว เกร็งหน้าท้อง ยืดหลังตรง ยกขาขึ้นทีละข้าง พร้อมกับชูมือขึ้นเหนือศีรษะ สลับข้างไปมา 3. Altis Step: ยืนตัวตรง มือเท้าสะเอว ก้าวขาไปด้านข้างทีละข้าง สลับกันไปมา พร้อมกับยกแขนขึ้นระดับอก บีบสะบัก ประโยชน์ของท่าบริหารหัวใจ คำแนะนำในการทำท่าบริหารหัวใจ

จะเป็นอย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า เมื่อคนไทยกว่า 40% จะเข้าสู่วัยเกษียณ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าภายในปี 2573 ประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะคิดเป็น 40% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเอง ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากจำนวนแรงงานที่มีประสิทธิภาพลดลง การบริโภคชะลอตัว และภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นจากสวัสดิการผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ธุรกิจเดิมๆ อาจขยายตัวได้ยาก เนื่องจากความต้องการของผู้สูงอายุ แตกต่างจากกลุ่มวัยทำงาน ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในประเทศไทย มีรายได้น้อย และไม่มีเงินออมเพียงพอสำหรับการเกษียณ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาความยากลำบากในการดำรงชีพ นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และความเหงา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต และคุณภาพชีวิต แนวทางแก้ไขปัญหา รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ที่เกิดจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีแนวทางแก้ไข ดังนี้

โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ การรักษาโรคเหล่านี้มักต้องใช้ยาเป็นประจำ แต่หลายคนกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยา ไม่อยากกินยา หรือพยายามลด/หยุดยาเอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ปัญหาการใช้ยาในผู้สูงอายุ แนวทางแก้ไข ข้อคิดสำคัญ ผู้ป่วยมีสิทธิ์ เลือก ตัดสินใจ ร่วมกับแพทย์ ในการรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง การใช้ยาเป็นเพียงปลายทาง การดูแลสุขภาพ ป้องกันโรค ตั้งแต่ต้นทางสำคัญกว่า ตัวเลขไม่ใช่ทุกอย่าง ต้องมองภาพรวม และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยประกอบด้วย

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงวัยและผู้ที่ทำงานในสำนักงานเป็นเวลานานๆ โดยมีสาเหตุหลักๆ มาจาก 1. การเสื่อมสภาพของร่างกาย: 2. พฤติกรรมเสี่ยง: 3. โรคประจำตัว: การดูแลตัวเองและป้องกันอาการปวด หากมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ เรื้อรัง หรือมีอาการรุนแรง เช่น ชา อ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง