โดย สูงวัย.ไทย
การคิดฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ร้ายแรงและซับซ้อน ซึ่งมักถูกมองข้าม เนื่องจากสังคมไทยมักให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพกายมากกว่า ประกอบกับผู้สูงอายุบางรายอาจไม่แสดงออกถึงความทุกข์ใจ หรือปิดบังความรู้สึก ทำให้คนรอบข้างไม่ทันสังเกตเห็น
ปัจจัยเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุ
- โรคซึมเศร้า: เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ผู้สูงอายุที่มีภาวะซึมเศร้ามักรู้สึกสิ้นหวัง มองไม่เห็นคุณค่าในตนเอง และอาจมีความคิดอยากตาย
- โรคทางกาย: โรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมาน สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง และอาจนำไปสู่ความสิ้นหวัง
- ความโดดเดี่ยว: การสูญเสียคนรัก การอยู่คนเดียว การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ทำให้เกิดความรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว และไม่มีใครต้องการ
- ปัญหาครอบครัว: เช่น ความขัดแย้งในครอบครัว การถูกทอดทิ้ง การถูกทำร้ายร่างกาย หรือจิตใจ
- ปัญหาเศรษฐกิจ: เช่น การขาดรายได้ การมีภาระหนี้สิน ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล
สัญญาณเตือนภัย
- พูดถึงความตายบ่อยครั้ง: เช่น “อยู่ไปก็เป็นภาระ” “อยากตาย”
- แจกจ่ายทรัพย์สิน: เช่น ยกมรดก แบ่งของใช้ส่วนตัว
- เก็บตัว: ไม่อยากพบปะผู้คน ไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชอบ
- มีพฤติกรรมเสี่ยง: เช่น ดื่มสุรา ใช้สารเสพติด ขับรถเร็ว
- แสดงความสิ้นหวัง: เช่น พูดว่า “ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว” “ไม่มีใครช่วยได้”
การป้องกันและช่วยเหลือ
- ใส่ใจผู้สูงอายุ: สังเกตพฤติกรรม พูดคุย รับฟัง และให้กำลังใจ
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว: ดูแลเอาใจใส่ ให้ความรัก และความอบอุ่น
- ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม: พบปะเพื่อนฝูง ทำกิจกรรมที่ชอบ
- ดูแลสุขภาพกายและใจ: พาไปพบแพทย์ตามนัด รักษาโรคประจำตัว ส่งเสริมการออกกำลังกาย
- หากพบสัญญาณเตือนภัย: รีบพาไปพบแพทย์ หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323
การฆ่าตัวตายป้องกันได้ อย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุเผชิญปัญหาเพียงลำพัง
สูงวัย.ไทย ห่วงใยผู้สูงอายุทุกคน