ความเหงาสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้:
- ระดับ 1: เหงาเล็กน้อย (Mild Loneliness)
- รู้สึกเหงาเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากนัก
- วิธีรับมือ: หากิจกรรมที่ชอบทำคนเดียว เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง หรือออกกำลังกาย
- ระดับ 2: เหงาปานกลาง (Moderate Loneliness)
- รู้สึกเหงาบ่อยขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรมบ้าง
- วิธีรับมือ: พยายามเข้าสังคมมากขึ้น พบปะเพื่อนฝูง หรือครอบครัว หากิจกรรมที่ทำร่วมกับผู้อื่น เช่น เล่นกีฬา เข้าร่วมชมรม หรือทำกิจกรรมอาสาสมัคร
- ระดับ 3: เหงามาก (Severe Loneliness)
- รู้สึกเหงาเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก รู้สึกโดดเดี่ยวแม้จะมีคนรอบข้าง
- วิธีรับมือ: เปิดใจพูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อหาแนวทางในการจัดการกับความเหงา
- ระดับ 4: เหงาขั้นรุนแรง (Extreme Loneliness)
- รู้สึกเหงาตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิต ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
- วิธีรับมือ: จำเป็นต้องได้รับการดูแลและช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังมีวิธีรับมือกับความเหงาอื่นๆ ที่สามารถทำได้ ดังนี้:
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น: พยายามสานสัมพันธ์กับคนรอบข้าง พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือทำกิจกรรมร่วมกัน
- ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต: ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด
- หาความหมายในชีวิต: ค้นหาสิ่งที่ตนเองสนใจและมีความสุขในการทำ ตั้งเป้าหมายในชีวิต และพยายามทำให้สำเร็จ
- ยอมรับและเข้าใจความรู้สึกของตนเอง: อย่าพยายามปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหงา แต่ให้ยอมรับและพยายามทำความเข้าใจกับมัน
หากคุณรู้สึกว่าความเหงาส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณอย่างมาก อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต