เก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดสูง ทำให้เกิดการตกผลึกของกรดยูริกตามข้อต่างๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ และข้อศอก
สาเหตุของอาการเจ็บจากเก๊าท์
อาการเจ็บจากเก๊าท์ เกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้
- การตกผลึกของกรดยูริก: เมื่อกรดยูริกในเลือดสูง จะเกิดการตกผลึกเป็นผลึกแหลมคม แทงเข้าไปในเนื้อเยื่อข้อต่อ ทำให้เกิดการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน
- การอักเสบ: ผลึกกรดยูริกกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาต่อสู้ ทำให้เกิดการอักเสบ หลั่งสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการปวด
- การทำลายเนื้อเยื่อ: การอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดการทำลายกระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อต่อ นำไปสู่ความเสียหายของข้อ และอาการปวดเรื้อรัง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเก๊าท์
- พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเก๊าท์
- เพศ: ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าผู้หญิง
- อายุ: มักพบในผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
- อาหาร: บริโภคอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล แอลกอฮอล์
- โรคประจำตัว: เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต
- ยาบางชนิด: เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแอสไพริน
การลดอาการเจ็บจากเก๊าท์
ดูแลสุขภาพ: ควบคุมโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
การรักษา: พบแพทย์เพื่อรับการรักษา เช่น ยาลดกรดยูริก ยาลดการอักเสบ
การปรับพฤติกรรม:
ควบคุมอาหาร: จำกัดอาหารที่มีพิวรีนสูง ดื่มน้ำมากๆ
ควบคุมน้ำหนัก: ลดน้ำหนัก หากมีภาวะน้ำหนักเกิน
ออกกำลังกาย: สม่ำเสมอ อย่างเหมาะสม
งดแอลกอฮอล์: ทุกชนิด